ประสิทธิภาพของถุงยางอนามัยในการคุมกำเนิด (Condom Effectiveness)

ถ้าใช้ถุงยางอนามัยที่ได้มาตรฐาน ไม่เสื่อม ไม่รั่ว ไม่ซึม ใช้อย่างถูกวิธีและใช้อย่างสม่ำเสมอ สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้มากมายดังตารางข้างบนดังนี้ เอดส์ ไวรัสตับอักเสบบี หูดหงอนไก่ หนองในเทียม หนองในแท้ พยาธิในช่องคลอด ซิฟิลิส โรคเริม แผลริมอ่อน และจะมีอัตราตั้งครรภ์ 3 ราย ใน 100 ราย ที่ใช้ใน 1 ปี ตามทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติจริง พบว่ามีอัตราตั้งครรภ์ สูงถึง 10-15 ราย ใน 100 ราย ใน 1 ปี

สาเหตุของการล้มเหลวในการใช้ถุงยางอนามัย

1. การใช้ถุงยางอนามัยไม่สม่ำเสมอ นับเป็นสาเหตุสำคัญในการคุมกำเนิด ซึ่งอาจมาจากความไม่ร่วมมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หรือใช้ถุงยางอนามัยสลับกับการนับวัน หรือหลั่งภายนอก
2. การใช้ถุงยางอนามัยไม่ถูกวิธี เช่น คลี่ออกทั้งหมดก่อนสวมใส่ การใส่ผิดด้าน ไม่ไล่อากาศออกจากติ่งกระเปาะ ถูกเล็บหรือของมีคม การนำกลับมาใช้ใหม่หลังจากที่ใช้ไปพักหนึ่งแล้วถอดออก การไม่จับขอบตอนถอด การใช้สารหล่อลื่นที่ไม่เหมาะสม หลั่งแล้วแช่นาน การใช้ไม่ถูกวิธีเหล่านี้นำมาซึ่ง การแตก รั่ว เลื่อนหลุดของถุงยางอนามัย หรือการการปนเปื้อนของน้ำอสุจิบริเวณช่องคลอด
3. การแตกของถุงยางอนามัย
4. การเลื่อนหลุดของถุงยางอนามัย

Reference:

1.http://www.clinicrak.com/birthcontrol/gen_condom01.html

2.http://www.bcnlp.ac.th/ebook/panumas/001.pdf

3.www.moph.go.th/

4.ธีระ ทองสง และคณะสูติศาสตร์(ฉบับเรียบเรียงครั้งที่4).การคุมกำเนิด : พีบี ฟอเรน บุ๊ค เซนเตอร์ 2541.

โดย นพท.หญิงรติกร สุนทรารัตน์พงษ์