กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยผลสำรวจทัศนคติความเห็นของประชาชน เรื่องการใช้ถุงยางอนามัยพบคนไทยอายไม่กล้าซื้อใช้ พร้อมเตรียมจัดงบ 47 ล้านบาท ทำถุงยางแจกฟรีทั่วประเทศ
วันที่ 12 ก.พ. กระทรวงสาธารณสุข เผยผลสำรวจประเทศไทยพบปัญหาวัยรุ่นติดกามโรคสูงขึ้นเกือบ 5 เท่าตัว เนื่องจากไม่มีการป้องกันโดยการใช้ถุงยางอนามัย และมักเลือกขนาดที่ไม่เหมาะสม ส่วนโพลการใช้ถุงยางอนามัยป้องกันโรคช่วงวันวาเลนไทน์ ปี 2558 ของกรมควบคุมโรค โดยสอบถามจากคนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป พบว่าคนไทยมีทัศนคติที่ดีต่อการใช้ถุงยางอนามัยมากขึ้น โดยผลสำรวจพบว่าการใช้ถุงยางอนามัยสามารถป้องกันการตั้งครรภ์และป้องกันโรคต่างๆ จากการมีเพศสัมพันธ์ได้ ร้อยละ 76.8 ขณะที่ชายวัยทำงานที่พกถุงยางอนามัย ร้อยละ 64.8 ผลสำรวจพบเป็นคนรู้จักป้องกันตนเองและผู้อื่น ส่วนผู้หญิงวัยทำงาน ร้อยละ 63.3 พบเหตุผลเดียวกัน
เมื่อถามความเห็นกรณีการติดตั้งเครื่องจำหน่ายถุงยางอนามัยในห้องน้ำโรงเรียนตั้งแต่มัธยมศึกษาต่างเห็นด้วยกับการติดตั้งตู้ถึง ร้อยละ 60 ส่วนการแจกถุงยางอนามัยในช่วงวันวาเลนไทน์ เชื่อว่าจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ และโรคติดต่อได้ ร้อยละ 66.7 นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่าการแจกถุงยางอนามัยกับนักเรียนในช่วงวันวาเลนไทน์จะเป็นการกระตุ้นให้มีเพศสัมพันธ์ ร้อยละ 55.4
อย่างไรก็ตาม พบว่าประชาชนร้อยละ 43.5 รู้สึกอายที่ต้องซื้อถุงยางอนามัยในร้านสะดวกซื้อหรือร้านขายยา ทำให้กรมควมคุมโรค มีมาตรการเตรียมติดตั้งตู้จำหน่ายถุงยางอนามัยในพื้นที่ต่างๆ โดยในปีงบประมาณ 2558 ได้จัดทำงบประมาณ 47 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อถุงยางอนามัย จำนวน 43 ล้านชิ้น แจกฟรีให้กับประชาชนทั่วประเทศ