ถุงยางอนามัยใช้สวมใส่อวัยวะเพศชายเมื่อแข็งตัวเต็มที่ ทำหน้าที่เป็นเครื่องกีดขวางไม่ให้ตัวเชื้ออสุจิ เข้าสู่ช่องคลอด ที่ปลายถุงยางอนามัยจะมีกระเปาะเล็กๆ สำหรับรองรับน้ำอสุจิ ส่วนเชื้อเอชไอวีนั้นมีขนาดเล็กกว่าตัวอสุจิถึง 30 เท่า ซึ่งได้มีการค้นคว้าและทดลองพบว่า แม้ผนังถุงยางอนามัยจะถูกขยายถึง 2,000 เท่าก็ยังไม่เห็นการรั่วซึม เมื่อขยายผนังถุงยางอนามัยเป็น 30,000 เท่า ซึ่งเป็นกำลังขยายที่สามารถมองเห็นตัวเชื้อเอชไอวีได้นั้นพบว่า ผนังถุงยางอนามัยมีลักษณะเป็นหลุมเล็กๆ แต่ก็ไม่เห็นรอยรั่วซึม และที่สำคัญเชื้อเอชไอวีนั้นต้องอาศัยเซลล์เม็ดเลือดขาว น้ำในช่องคลอด เป็นที่อยู่อาศัยซึ่งเซลล์เม็ดเลือดขาวมีขนาดใหญ่กว่าผนังถุงยาง ถุงยางอนามัยก็จะช่วยกักเก็บน้ำอสุจิและน้ำในช่องคลอด ป้องกันไม่ให้ผ่านเข้าไปในอวัยวะเพศแต่ละฝ่ายได้ ดังนั้นถุงยางอนามัยจึงเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะ เอช ไอ วี/เอดส์ได้ดีที่สุด