ถุงยางผู้หญิงกำลังมา หนุ่มสาวรุ่นใหม่ต้องรู้ !!!
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาว Grand Condom วันนี้แอดมินเอาอีกหนึ่งสาระดีๆของถุงยางอนามัยมาฝากกันอีกแล้วนะคะ เนื่องจากมีข่าวทอล์คออฟเดอะทาวน์
ของถุงยางอนามัยผู้หญิงแบบใหม่สุดซี้ดที่โด่งดังมากในช่วงเดือนเมษายน ปี 2015 ที่ผ่านมา ลากยาวมาถึงปี 2016 และมีเพื่อนๆหลายคนสอบถามถึง
ถุงยางผู้หญิงเข้ามาเป็นจำนวนมาก วันนี้แอดมินเลยจะมาแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักกับ ”ถุงยางผู้หญิง” หรือ ถุงยางสตรี แบบละเอียดยิบ ชนิดที่เรียกว่าอ่านจบแล้วจะวาป
ไปถึงบางอ้อกันค่ะ
ถุงยางผู้หญิงมาจากไหน เกิดขึ้นได้ยังไง?
คำถามแรกเลยที่ทุกคนต้องอยากรู้แน่นอน คือถุงยางผู้หญิง, ถุงยางอนามัยผู้หญิง หรือ ถุงยางอนามัยสตรี (Female condom) ที่แล้วแต่คนจะเรียก
นั้น มีมานานหรือยัง? แล้วใครเป็นคนคิดค้นขึ้น?
ต้องบอกเลยว่าถุงยางผู้หญิง มีการผลิตขึ้นมาใช้นานมากแล้วค่ะ สำหรับผู้ที่คิดค้นถุงยางอนามัยผู้หญิงนั้นเป็นสูตินารีแพทย์ ชาวเดนมาร์ก โดยคิดค้น
ถุงยางผู้หญิงที่ทำจากโพลียูริเทน (polyurethane) หรือยางสังเคราะห์ และได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์ถุงยางผู้หญิงขึ้นในนามบริษัท Wisconsin -
Pharmacal ประเทศอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2531 (28 ปีที่แล้ว) และในปีต่อมา พ.ศ. 2532 บริษัท Chartex International ที่ประเทศอังกฤษ ก็ได้เริ่ม
ผลิตถุงยางผู้หญิงออกจำหน่ายครั้งแรกในชื่อ “Femidom” จากนั้นถุงยางผู้หญิงก็ถูกพัฒนามาเรื่อยๆ
จนเมื่อปี ค.ศ.1993 (พ.ศ.2546) ถุงยางผู้หญิงได้ผ่านการรับรองจากFDA (องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา) เพื่อการันตีมาตรฐาน
ความปลอดภัยสากล แต่ถึงกระนั้นในปัจจุบัน ถุงยางผู้หญิงก็ยังไม่ได้รับความนิยม อย่างแพร่หลายเหมือนถุงยางอนามัยผู้ชาย ที่ผลิตมาจากน้ำยาง
ธรรมชาติ (natural latex) เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่จะกลัวกับคำว่ายางสังเคราะห์ ถึงแม้ว่ายางสังเคราะห์จะมีความบาง ยืดหยุ่นได้ดี และไม่เกิดการ
ระคายเคืองต่อผู้ใช้ทั้งชายและหญิงก็ตาม ทั้งยังเป็นสินค้าที่หาซื้อได้ยากพอสมควร แต่ในปัจจุบันได้มีการใช้นวัตกรรมใช้โพลียูริเทนมาผลิตเป็น
ถุงยางอนามัยชายยอดนิยมหลากหลายยี่ห้อมากขึ้น เช่น sagami และ jex เป็นต้น จึงทำให้ในช่วงหลังมานี้ ผู้หญิงเริ่มคุ้นเคยกับยางสังเคราะห์
และหันมาสนใจถุงยางผู้หญิงเพิ่มมากขึ้นด้วย
ถุงยางผู้หญิง คืออะไร มีลักษณะยังไง?
ถุงยางอนามัยผู้หญิง (Female Condom) คือเครื่องมือคุมกำเนิด และป้องกันโรคสัมพันธ์อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ โดยผู้หญิง
จะเป็นคนใช้สอดใส่เข้าไปภายในช่องคลอดก่อนมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันไม่ให้อสุจิผ่านเข้าสู่โพรงมดลูก (หลักการเดียวกับถุงยางอนามัยชาย)
เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์
ถุงยางอนามัยผู้หญิงจะมีลักษณะเป็นถุงโปร่งแสง ผลิตจากยางสังเคราะห์โพลียูริเทน (polyurethane) ซึ่งมีความเหนียวทนทาน มีความนุ่มนวล
และบางกว่าน้ำยางธรรมชาติ และสามารถใช้ร่วมกับสารหล่อลื่นที่เป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีได้อย่างปลอดภัย
ปลายด้านหนึ่งตันด้านหนึ่งเปิด ทรงกระบอกยาว 6.5 นิ้ว หรือ 15 เซนติเมตร และมีขอบเป็นวงแข็งกว่าส่วนอื่นๆ ลักษณะแหมือนวงแหวนอยู่ 2 วงที่
ปากถุงและก้นถุง เพื่อให้คงรูปร่างไว้เมื่อใช้งาน เรียกว่า ขอบนอก (เมื่อใส่แล้วอยู่ด้านนอกตัว) มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 7 เซนติเมตร ภายในก้นถุงเป็น
ปลายตันภายในถุงยางจะมีเจลหล่อลื่น แต่ไม่มีสารฆ่าเชื้ออสุจิ ส่วนห่วงอีกด้านมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5.5 เซนติเมตร เรียกว่า ขอบใน (เมื่อใส่แล้วจะอยู่
ด้านในตัว)ซึ่งขอบใน มีไว้ใช้สำหรับสอดใส่ถุงยางเข้าไปในช่องคลอด โดยบีบขอบใน แล้วสอดเข้าไปจนสุด ซึ่งจะเข้าไปครอบอยู่บริเวณบน
ปากมดลูกพอดี และห่วงนี้จะยึดถุงยางไว้ไม่ให้หลุดออกมา ในขณะที่ห่วงนอกที่เป็นขอบถุงจะช่วยให้ถุงยางแผ่ปิดตรงบริเวณปากช่องคลอด
สำหรับการสอดใส่
ถุงยางผู้หญิง มีประโยชน์ยังไง?
ถุงยางอนามัยผู้หญิงมีหลักการทำงานเหมือนกับกับถุงยางอนามัยชาย คือ ใช้เพื่อคุมกำเนิด ป้องกันการตั้งครรภ์ และช่วยป้องกันการติดเชื้อโรคติดต่อ
ทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ค่ะ เช่น ซิฟิลิส หนองใน เอดส์ เป็นต้น ซึ่งการคุมกำเนิดโดยใช้วิธีนี้ จะดีกว่าการคุมกำเนิดด้วยวิธี การรับประทานยาเม็ด
คุมกำเนิด การฉีดยาคุมกำเนิด การทำหมัน ฯลฯ เพราะการใช้ถุงยางอนามัยสามารถป้องกันการติดต่อโรคทางเพศสัมพันธ์ได้นั่นเอง
ถุงยางผู้หญิง มีประสิทธิภาพแค่ไหน?
ในทางทฤษฎีแล้ว หากใช้ถุงยางอนามัยผู้หญิงอย่างถูกต้อง 100% (Perfect use) จะมีโอกาสล้มเหลว ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 5%
(5 ใน 100 คน) แต่ในทางปฏิบัติจริงๆแล้ว (Typical use) กลับพบอัตราการล้มเหลวจากการใช้งานถุงยางผู้หญิงมากถึง 21% (1 ใน 5 คน) อันเนื่อง
มาจากความผิดพลาดในการใช้งานที่ไม่ถูกต้อง ดังต่อไปนี้ค่ะ
สาเหตุที่ทำให้การใช้ถุงยางผู้หญิงล้มเหลว หรือผิดพลาด คือ
- ถุงยางฉีกขาดขณะสวมใส่ เพราะโดนของมีคม เช่น เล็บมือ ฟัน กรรไกร และแหวน
- ถุงยางฉีกขาดขณะร่วมเพศ
- ถุงยางหลุดออกมาขณะมีเพศสัมพันธ์
- ฝ่ายชายสอดใส่อวัยวะเพศออกนอกถุงยางอนามัย
- ถุงยางหลุดเข้าไปในช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์
- การใส่ถุงยางซ้ำซ้อน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทำให้ยางเกิดการเสียดสีและฉีกขาด ซึ่งเป็นข้อห้ามโดยเด็ดขาด***
ถุงยางผู้หญิง เหมาะกับใครบ้าง?
ใครๆก็สามารถใช้ถุงยางผู้หญิงได้ หรือรวมถึง
1. ผู้หญิงที่ต้องการคุมกำเนิดแบบชั่วคราว
2. ผู้หญิงที่ต้องการคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินโดยไม่ได้กินยาคุมกำเนิดตามปกติ
3. ผู้หญิงที่แพ้ต่อถุงอนามัยจากยางธรรมชาติ
4. ผู้หญิงที่มีการคุมกำเนิดในรูปแบบอื่นอยู่แล้ว แต่อยากป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มเติมด้วย เช่น ฉีดยาคุมกำเนิด
หรือรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดมาก่อนอยู่แล้ว
5. ผู้หญิงที่มีโรคติดต่อ หรือมีสามี มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิส หนองใน เป็นโรคไวรัสตับอักเสบ ติดเชื้อเอชไอวี ฯลฯ
ถุงยางผู้หญิง ใช้งานยังไง?
วิธีการใช้งานถุงยางอนามัยผู้หญิง ใช้โดยผู้หญิงจะสอดใส่ถุงยางเข้าไปในช่องคลอด ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งทั้งนี้สามารถใส่เตรียมการล่วงหน้า
ก่อนได้ซึ่งจะต่างจากถุงยางอนามัยผู้ชาย ที่ต้องใส่ตอนอวัยวะเพศชายแข็งตัวเท่านั้นค่ะ
ขั้นตอนการใส่ถุงยางผู้หญิงมีดังนี้
1. ล้างมือให้สะอาด
2. จัดวางท่าตัวเองให้เหมาะสมกับการสอดใส่ถุงยาง โดยปกติจะใช้ท่านอนหงายชันเข่า นั่งยองๆ หรือชันเข่าข้างหนึ่งบันเก้าอี้
3. บีบซองเบาๆให้ทั่วบริเวณ เพื่อให้เจลหล่อลื่นกระกระจายตัวได้ดี
4. ฉีกซองด้วยความระมัดระวังไม่ให้โดนถุงยาง และไม่ใช้ของมีคม
5. ตรวจดูว่าวงแหวนด้านนอยู่ที่ก้นถุงตามปกติดีหรือไม่ (ส่วนที่จะปิดกั้นเชื้ออสุจิไม่ให้เข้าไปผสมกับไข่)
6. สอดใส่ถุงยางเข้าไปในช่องคลอด โดยใช้มือด้านที่ถนัดจับขอบถุงยางใน(ปลายตัน) บีบเข้าหากันให้มีขนาดเล็กลง แล้วค่อยๆสอดใส่เข้าไปใน
ช่องคลอด จากนั้นใช้นิ้วชี้หรือนิ้วกลางดันถุงยางเข้าไปให้ลึกมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ (ขั้นตอนนี้สามารถใช้เจลหล่อลื่นชนิดใดก็ได้ทาเพิ่มเติม
ก่อนการสอดใส่เพื่อลดการระคายเคืองได้ตามใจชอบ) เสร็จแล้วจึงจัดระเบียบให้ไม่บิดเบี้ยวขอบถุงยางด้านนอก (ด้านปลายเปิด) ครอบอยู่ที่ปาก
ช่องคลอดพอดี เมื่อสอดใส่เสร็จแล้วจะเห็นวงแหวนด้านนอกจะอยู่ภายนอกช่องคลอด และอาจอยู่ห่างช่องคลอด ประมาณ 1 นิ้ว แต่เมื่อมีการ
ร่วมเพศ ช่องคลอดจะยืดขยายตัวทำให้ส่วนของถุงที่ยื่นออกมาหดสั้นลง จนวงแหวนภายนอกชิดกับปากช่องคลอดได้
7. ร่วมเพศได้อย่างอิสระ และสามารถใช้เจลหล่อลื่นร่วมด้วยได้ ซึ่งก่อนสอดอวัยวะเพศชายผู้หญิงอาจช่วย โดยใช้มือจับวงแหวนภายนอกให้ชิด
ติดกับปากช่องคลอด เพื่อป้องการสอดเข้าด้านข้างของถุงยาง และเกิดความผิดพลาดได้
8. หลังจากเสร็จกิจ ให้เอาถุงยางออกจากช่องคลอดก่อนลุกนั่งหรือยืน โดยใช้นิ้วหมุนบิดวงแหวนด้านนอกให้ปิดสนิทสัก 2-3 ที เพื่อป้องกันไม่ให้
อสุจิไหลออกจากปลายเปิด จากนั้นจึงค่อยๆดึงถุงยางออกมาอย่างระมัดระวัง ลองตรวจสอบสภาพว่ามีรอยฉ๊กขาดหรือไม่ จากนั้นห่อหุ้มด้วยกระดาษ
ชำระก่อนนำไปทิ้งถังขยะให้มิดชิด และไม่ควรทิ้งลงชักโครก เพราะจะทำให้ชักโครกอุดตัน
คำแนะนำเพิ่มเติม
- ถุงยางอนามัยต้องใช้เพียงครั้งเดียวแล้วทิ้ง ห้ามนำมาใช้ซ้ำเป็นอันขาด ถ้าต้องการมีเพศสัมพันธ์อีกครั้ง ต้องใช้อันใหม่
- ห้ามใช้ถุงยางผู้หญิงร่วมกับการใช้ถุงยางอนามัยชาย หรือใช้ถุงยางอนามัยสตรีทางทวารหนัก เพราะจะทำให้ถุงยางอนามัยเลื่อนหลุด
หรือเกิดการเสียดสีจนถุงยางฉีกขาดและเป็นอันตรายได้
- ห้ามใช้ถุงยางผู้หญิงที่หมดอายุแล้ว
- หากตรวจพบว่าถุงยางผู้หญิงรั่วซึมฉีกขาด ให้ซื้อยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมารับประทาน เพื่อลดโอกาสในการตั้งครรภ์
ถุงยางผู้หญิง มีข้อดี ข้อเสีย อะไรบ้าง?
ข้อดี
1. คุมกำเนิด หรือป้องกันการตั้งครรภ์ได้
2. ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ เช่นเดียวกับกับใช้ถุงยางอนามัยอนามัยชาย เช่น ซิฟิลิส หนองใน ไวรัสตับอักเสบบี เอดส์
ซึ่งการคุมกำเนิดแบบอื่นไม่สามารถป้องกันได้
3. มีความปลอดภัย ไม่มีผลต่อสุขภาพ และผลต่อภาวะการเจริญพันธุ์ของผู้หญิง เพราะไม่เกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมนในร่างกาย
จึงทำให้มีไม่มีผลข้างเคียงจากฮอร์โมน ทำให้ประจำเดือนมาตามปกติ
4. สามารถใส่และถอดได้เองโดยไม่ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญ หรือต้องรอพึ่งพาฝ่ายชายให้เป็นคนสวมถุงยางอนามัยชาย
(ฝ่ายหญิงจะมีส่วนร่วมในการคุมกำเนิด เพราะหากผู้ชายไม่ยอมคุมกำเนิดโดยการใส่ถุงยาง ฝ่ายหญิงก็สามารถคุมกำเนิดได้ด้วยตัวเอง)
5. ใส่ไว้รอก่อนได้ โดยไม่ต้องใส่ขณะจะมีเพศสัมพันธ์เหมือนถุงยางอนามัยชายที่ต้องรอใส่ตอนอวัยวะเพศชายแข็งตัว จึงไม่ขัดจังหวะการร่วมเพศ
ไม่ต้องรีบถอนอวัยวะเพศชายออกจากช่องคลอดทันทีเมื่อหลั่งน้ำอสุจิ เหมือนการคุมกำเนิดด้วยถุงยางอนามัยชาย
6. มีความทนทานมากกว่าถุงยางอนามัยชาย และทนทานต่อเจลหล่อลื่นทุกชนิด และสามารถใช้ร่วมกับเจลหล่อลื่นที่เป็นน้ำมันได้
7. เมื่อหยุดใช้งาน สามารถมีบุตรได้ทันที ไม่ต้องรอเหมือนวิธีอื่นๆ
8.ใช้ง่าย สะดวก ผู้ใช้สามารถใส่และถอดเองได้เอง ไม่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
ข้อเสีย
1. มีอัตราการล้มเหลวสูงจากการคุมกำเนิด หากใช้อย่างไม่ถูกวิธี
2. ต้องใช้ทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ หาซื้อได้ยาก และมีราคาแพงกว่าถุงยางอนามัยชาย
3. ขั้นตอนการใส่ค่อนข้างยุ่งยากเล็กน้อย การสอดถุงยางอาจจะมีความลำบากสำหรับบางคน
4. ผู้หญิงบางรายอาจสูญเสียความมั่นใจ เพียงแค่เห็นถุงยางอนามัยที่ห้อยออกมานอกช่องคลอด !! เนื่องจากถุงยางมีขนาดใหญ่ ลักษณะพร้อมใช้
จึงอาจดูไม่น่ามองนักสำหรับบางคน จนอาจทำให้เสียอารมณ์ทางเพศได้
5. ในบางครั้งฝ่ายชายอาจสอดใส่เข้าไปผิดตำแหน่งในขณะร่วมเพศได้
6. ในระหว่างการร่วมเพศอาจจะเกิดเสียงดัง จนอาจทำให้ขัดจังหวะในการร่วมเพศได้
7. ผู้ใช้บางรายอาจมีอาการเจ็บแสบในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ด้วย (ในกรณีนี้ให้ใช้เจลหล่อลื่นร่วมด้วย)
8. ในระหว่างการใช้งาน ถุงยางอาจหลุดเข้าไปค้างอยู่ในช่องคลอดได้
9. ถุงยางอาจมีสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง จนทำให้เกิดอาการคันได้ และในบางรายอาจทำให้มีตกขาวได้ด้วย
ถุงยางผู้หญิง หาซื้อได้ที่ไหน
ถุงยางอนามัยผู้หญิงในปัจจุบัน ต้องหาซื้อจากร้ายขายยาขนาดใหญ่ หรือติดต่อตามโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เท่านั้น! นะคะ ยังไม่มีวางจำหน่ายทั่วไป
ตามร้านสะดวกซื้อหรือห้างสรรพสินค้าเหมือนถุงยางอนามัยชายค่ะ ซึ่ง Grand Condom เองก็ยังไม่มีจำหน่ายเช่นกันค่ะ ถ้ามีมาเมื่อไหร่ จะได้เชยชมกันแน่ๆ
ถุงยางผู้หญิง แบบใหม่ ใส่แล้วฟิน ที่เป็นกระแสร้อนแรงในตอนนี้
และแล้วก็มาถึงเรื่องถุงยางผู้หญิงรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ทุกคนให้ความสนใจกันอย่างมากและมาถามหาแอดมินกันเต็มไปโหม้ดนะคะ ซึ่งจะขอเล่าให้ฟังว่า
ถุงอนามัยผู้หญิงรุ่นใหม่ตัวนี้มีชื่อว่า “VA w.o.w” นับว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์สุดล้ำจากบริษัท IXu LLc ซึ่งมีความแตกต่างจากถุงยางอนามัยแบบธรรมดา
ที่เราเคยเห็นทั่วๆไป เพราะตรงห่วงหรือวงแหวนนั้นจะมีเครื่องสั่นขนาดจิ๋วที่ทำน้าที่คอยช่วยกระตุ้นให้คุณผู้หญิงถึงจุดสุดยอดได้ง่ายสุดๆฝังเอาไว้ด้วย
ทั้งยังสามารถสอดใส่เข้าไปก่อนการมีเพศสัมพันธ์ได้นานถึง 8 ชั่วโมงเลยค่ะ อื้อหือเรียกได้ว่าเตรียมพร้อมก่อนลงสนาม ได้เกือบครึ่งวันเลยทีเดียว
นอกจากนี้นะคะ จากผลการสำรวจคู่รักจำนวน 50 คู่ ยังพบว่า ผู้หญิงกว่าร้อยละ 70 ถึงจุดสุดยอดตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้งานเจ้า “VA w.o.w” และเมื่อ
ใช้เป็นครั้งที่ 2 ก็เพิ่มขึ้นมาเป็นร้อยละ 84 และเพิ่มขึ้นเป็น 100% หลังจากใช้งาน 4 ครั้ง ซึ่งนี่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของถุงยางชนิดนี้ได้
เป็นอย่างดีเลยค่ะ
แต่! ตอนนี้ในประเทศไทยเรายังไม่มีวางจำหน่ายนะคะ เพราะทางบริษัทผู้ผลิตมีแผนจะวางจำหน่ายในตลาดยุโรปก่อนในช่วงปลายปี 2016 ค่ะ
กว่าจะมาถึงเราอีกต้องอดทนรอกันหน่อยน้า และทางบริษัทยังบอกอีกด้วยว่าในอนาคต อาจจะมีถุงยางผู้หญิงที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
หรือควบคุมผ่านรีโมทได้ โอ้วโหว ล้ำสุดๆไปเลยสำหรับชีวิตในยุคดิจิตอลแบบนี้ ถ้าใครสนใจและอยากทดลองใช้ก็เก็บเงินเตรียมต่อคิวรอได้เลย
เรียกได้ว่าฮอตสมคำร่ำลือมากๆเลยกับถุงยางผู้หญิงแบบใหม่ เพราะนอกจากจะป้องกันการตั้งครรภ์ ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้แล้ว
ยังช่วยกระตุ้นให้ผู้หญิงฟิ๊นฟินนนได้อีกด้วย ซึ่งก็ถือว่าเป็นปัญหาของสาวๆหลายๆคนเลยนะคะ ที่จะไม่ค่อยถึงจุดสุดยอดอย่างฝ่ายชาย
เอาน่ะตอนนี้ก็อดทนรอกันไปก่อน ระหว่างนี้มีตัวช่วยที่ช่วยได้ คือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกระตุ้นจุดสุดยอดคุณผู้หญิงทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ถุงยางอนามัยชาย
Durex Sensation, Durex Excita, Okamoto Dot de Cool, Sagami Lemonade, Sagami Super Dot, One touch Inspiral, One touch Maxx Dot,
One touch Mixx 3, Playboy Maxx Dot, Jex 0.03 Cool, Jex 0.03 Hot and Cool, Jex Menthol, Tango Dotted
หรือเจลหล่อลื่นอีกมากมายที่แนะนำไว้ด้านล่างนี้ ยังไงก็ลองเลือกลองพิจารณากันดูนะคะ^^
ชมวีดีโอเกี่ยวกับถุงยางผู้หญิงเพิ่มเติมที่นี่