ผู้หญิงน้ำแตก "น้ำพุแห่งความสุข" คืออะไร ? เกิดกับผู้หญิงทุกคนหรือไม่
น้ำพุแห่งความสุข (Squirting) หรือผู้หญิงน้ำแตก ผู้หญิงที่มีอาการจิ๋มพ่นน้ำ! ออกมาเมื่อถึงจุดสุดยอด มันคืออะไรกันแน่ แล้วทำไมถึงไม่ได้เป็นกันทุกคนมาดูคำตอบกันค่ะ
HIGHLIGHTS
-
"สเควิร์ต" (Squirting) เป็น "การหลั่งของผู้หญิง"
-
น้ำพุแห่งความสุข คือน้ำที่หลั่งออกจากต่อมสกีนเมื่อถึงจุดสุดยอด มีจำนวนน้อยไม่ได้พุ่งออกมาซู่ซ่าราวกับเปิดจุกแชมเปญ แบบที่เห็นในฉากหนัง AV และไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกราย
-
ผู้หญิงน้ำแตกระเบิดออกมาเยอะๆในหนัง AV โดยมากเป็นน้ำปัสสาวะที่คั่งค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ
เชื่อว่าคุณผู้ชายหลายๆคนต้องเคยผ่านตา หนังโป๊จำนวนมากที่มีฉากผู้หญิงน้ำแตก "สเควิร์ต" (squirt) ออกมา หรืออาการที่มีของเหลวพุ่งออกมาจำนวนหนึ่งจากอวัยวะเพศหญิงเมื่อถึงจุดสุดยอด ซึ่งแสดงความเชื่อถึงการไคลแม็กซ์ที่รุนแรงของผู้หญิงว่าฟินถึงขั้นสุด ในชีวิตจริงเมื่อเกมรักเดินมาถึงเส้นชัย หนุ่ม ๆ อาจจะคาดหวังเห็นภาพผู้หญิงของคุณเสร็จสมอารมณ์หมาย ปล่อยน้ำรักให้บานฉ่ำเหมือนในหนังที่เคยเห็นกัน มันช่างชุ่มฉ่ำ พุ่งแรงไม่มีกั๊ก ฟินสะใจจริงๆ แต่ได้ลองสังเกตไหมคะว่า คุณอาจไม่ได้เห็นภาพนั้นได้บ่อย หรือไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำจนทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมานานว่า ควงามจริงแล้วผู้หญิงสามารถหลั่งได้ เหมือนผู้ชายหลั่งน้ำอสุจิไหม? หรือเป็นเพียงการแสดงในหนังเท่านั้น
น้ำพุแห่งความสุข (Squirting) คือ ผู้หญิงน้ำแตก หรือ การหลั่งของผู้หญิงเมื่อถึงจุดสุดยอด (Female Ejaculation) กับความเข้าใจผิดของหนุ่มๆหลายคน ที่คิดว่าว่ามันคือน้ำที่ต้องออกมาทุกครั้งในตอนเสร็จของสาวๆ เหมือนกับน้ำรักสีขาวของหนุ่มๆ แต่ความจริงแล้ว เราอาจเข้าใจสิ่งนี้ผิดไปในหลายประเด็น อย่างแรก น้ำที่ว่านั้น มันไม่ใช่น้ำหล่อลื่น หรือน้ำรักในตอนเสร็จอย่างที่เราเข้าใจ แต่มันคือปัสสาวะที่คั่งค้างอยู่!!! ความจริงแล้วการหลั่งของผู้หญิงน้ำแตกนี้ มีบันทึกไว้ตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ สมัยอริสโตเติล (Aristotle) และฮิปโปเครตีส (Hippocrates) ที่อธิบายลักษณะการหลั่งโดยใช้คำว่า ‘น้ำอสุจิผู้หญิง’ แต่จนมาถึงศตวรรษที่ 19 ก็ยังไม่มีการค้นคว้าให้กระจ่างอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ทั้งๆ ที่มีข้อมูลว่าผู้หญิงร้อยละ 10-40 สามารถหลั่งได้เมื่อถึงจุดสุดยอดในจำนวนที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ 1-5 ซีซี จนถึง 150 ซีซี อย่างไรก็ตาม ก็มีแต่การอ้างจากคำพูดของผู้เชี่ยวชาญว่า น่าจะหลั่งจากต่อมน้ำหล่อลื่นบาร์โธลีนบ้าง จากจุดจีสปอตบ้าง
จนในปี 2015 มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Gynecol, Obstet, Fertil และ The Journal of Sexual Medicine ของศูนย์ข้อมูลเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NCBI) รายงานที่มาของการหลั่งในผู้หญิง ด้วยการรวบรวมผู้หญิงที่อ้างว่าเกิดการหลั่งทุกครั้งที่ถึงจุดสุดยอดจำนวน 7 ราย โดยให้ทุกรายทำการปัสสาวะออกก่อน และทำการตรวจอัลตราซาวด์ จนพบว่าไม่มีน้ำปัสสาวะเหลือ จากนั้นจึงให้ผู้เข้าร่วมทำการวิจัยสำเร็จความไคร่ด้วยตัวเอง โดยก่อนจะถึงฝั่งฝัน (ซึ่งใช้เวลาระยะหนึ่ง) ได้ผ่านการตรวจโดยอัลตราซาวด์อีกครั้ง การตรวจสอบพบว่าผู้หญิงทั้งหมดมีน้ำปัสสาวะอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ และเมื่อถึงจุดสุดยอดและทำการหลั่ง จึงทำการตรวจอัลตราซาวด์อีกครั้ง ค้นพบว่าน้ำปัสสาวะที่เหลืออยู่ได้หายไปในจำนวนที่เท่ากับน้ำที่หลั่งออกมา ทำให้คาดว่าน้ำที่หลั่งออกมาก็คือน้ำปัสสาวะนั่นเอง
ทั้งนี้ผู้วิจัยได้นำของเหลวที่หลั่งออกมาไปทำการตรวจทางชีวเคมี พบว่าน้ำปัสสาวะที่เก็บมาตรวจก่อนสเควิร์ตนั้น มีสารเคมี ยูเรีย (Urea) กรดยูริก (Uric acid) และครีเอตินิน (Creatinine) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำปัสสาวะตามปกติ โดยมีผู้หญิงจำนวน 2 ใน 7 คนที่ขับของเหลวออกมาเป็นน้ำปัสสาวะล้วนๆ ขณะที่อีก 5 คน มีสารพีเอสเอ (PSA = Prostate-Specific Antigen) ปนอยู่ ซึ่งสารนี้เป็นโปรตีนซึ่งเป็นส่วนประกอบของน้ำอสุจิ หลั่งมาจากต่อมลูกหมากของผู้ชาย ในผู้หญิงสาร PSA สามารถหลั่งออกมาเมื่อถึงจุดสุดยอดจากต่อมสกีน (Skene หรือ Paraurethal Glands) ซึ่งอยู่ข้างรูปัสสาวะ
นอกจากนี้งานวิจัยยังพบอีกว่า ถึงแม้จะปัสสาวะไปแล้วก่อนทำการหลั่ง ผลการตรวจอัลตราซาวด์ได้พบว่ามีน้ำปัสสาวะไหลเข้ามาในกระเพาะปัสสาวะอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงจุดสุดยอด ทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อนตัวลง และหูรูดรูปัสสาวะไม่สามารถเก็บน้ำปัสสาวะได้ จึงเกิดการ ‘สเควิร์ต’ หรือน้ำใสคล้ายปัสสาวะที่พุ่งออกมานั่นเอง ส่วนสาร PSA ที่ออกมาปนในน้ำปัสสาวะ เป็นการหลั่งของผู้หญิงจากต่อมสกีน ทำให้เชื่อว่าผู้หญิงหลั่งได้จริง สรุปจากงานวิจัยได้ว่า มีผู้หญิงจำนวน 2 คนที่อาสามาร่วมทำการวิจัยที่หลั่งเป็นน้ำปัสสาวะ ส่วนอีก 5 คนจาก 7 คนนั้นสามารถหลั่งได้เมื่อถึงจุดสุดยอด แต่น้ำที่หลั่งออกจากต่อมสกีนเมื่อถึงจุดสุดยอดนั้นมีจำนวนน้อย และไม่ได้พุ่งออกมาซู่ซ่าราวกับเปิดจุกแชมเปญ แบบที่เห็นในฉากหนัง AV ซึ่งส่วนใหญ่เป็นน้ำปัสสาวะที่คั่งค้างอยู่ และไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกราย
ทั้งนี้เราเรียกการ "สเควิร์ต" (Squirting) ว่าเป็น "การหลั่งของผู้หญิง" ซึ่งหากให้พูดความจริงที่อาจจะไม่น่าฟัง แต่นี่ก็คือเรื่องจริงที่หนุ่มๆ ต้องรู้เท่าทันวงการหนังเอวีไว้ก็คือ Squirting คือการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่เมื่อถึงจุดสุดยอดของสาวๆ และมักจะเกิดในผู้หญิงที่มีกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานไม่แข็งแรงนั่นเอง และหากผู้หญิงจะสามารถปลดปล่อยน้ำรักออกมาได้นั้น ต้องใช้สมาธิและตั้งใจให้มันเกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าเสร็จปุ๊บแล้วจะปล่อยปั๊บแบบกลั้นไม่อยู่ แม้หนุ่ม ๆ อาจคาดหวังจะได้เห็นผู้หญิงของคุณเสร็จสมแบบมีกั๊ก ปลดปล่อยออกมาดั่งน้ำตกในธรรมชาติ เพราะดูหนังผู้ใหญ่แล้วก็ถูกอกถูกใจกับหมวด Squirting แล้วล่ะก็ แต่ว่าสำหรับคุณผู้หญิงนั้นรู้ดีว่า ร่างกายของเธอทำงานอย่างไร อะไรที่ปลดปล่อยอย่างธรรมชาติ อะไรที่ตั้งใจปลอมมันขึ้นมา อย่าไปคาดหวังที่จะได้เห็นเธอ Squirt เหมือนในหนัง จนกลายเป็นว่าผู้หญิงต้องทำสิ่งนี้เพื่อความพึงพอใจของผู้ชายฝ่ายเดียวนะคะ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าใจแล้วว่า Squirting ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างธรรมชาติ การคาดหวัง หรือการพยายามขอให้อีกฝ่ายทำโดยไม่เต็มใจ คงไม่ใช่การสร้างบรรยากาศที่ดีในความสัมพันธ์เท่าไหร่นัก ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ ให้มันขึ้นอยู่กับความพึงพอใจและความเต็มใจของทั้งคู่ แบบนั้นอาจจะฟินกว่าการได้มองเธอเสแสร้งทำเป็นเสร็จจนชุ่มฉ่ำก็ได้ค่ะ ผู้หญิงที่หลั่งทุกคนนั้นมีความสุข สนุก ถึงฝั่งฝันได้ง่าย และรู้สึกผ่อนคลายในการร่วมเพศ ดังนั้นการหลั่งของผู้หญิงเมื่อถึงจุดสุดยอด จึงเป็นอะไรที่ไม่อันตราย และอาจจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงความสัมพันธ์ทางเพศที่แข็งแรงได้ (Healthy Sexual Relationship) ทางที่ดีคือก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์ แนะให้จัดการขับปัสสาวะให้ออกจนหมดเสียก่อนเริ่มโหมเพลงรัก เพราะนอกจากจะช่วยลดการ Squirt ที่มากมายแล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบในผู้หญิงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วยค่ะ
ขอบคุณที่มาจาก: thestandard, cosmopolitan, bbc