ไวอากร้า (Viagra) ดีจริงหรืออันตราย?

• ไวอากร้าไม่ใช่ยาปลุกเซ็กส์ ไม่ใช่สารเสพติด สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องทางการแพทย์ โดยต้องสั่งจ่ายแพทย์เท่านั้น 
• ไวอากร้านั้นไม่มีผลต่อการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ เป็นเพียงตัวช่วยสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่างกายไม่การตอบสนองต่ออารมณ์ทางเพศเท่านั้น
• ไวอากร้า ตัวยาออกฤทธิ์ยาวนาน 2-3 ชั่วโมงเต็ม และยังให้ผลต่อเนื่องถึง 6-12 ชั่วโมง โดยประสิทธิภาพจะลดลงเรื่อยๆตามระยะเวลาที่ผ่านไป
• ไม่ว่าจะเป็นปัญหา ไม่แข็งตัว แข็งตัวไม่เต็มที่ ล่มปากอ่าว หลั่งไว ไม่มีน้ำเชื้อ น้ำเชื้อไม่แข็งแรง ปัญหาเหล่านี้สามารถได้รับการแก้ได้ในทันทีจากการใช้ยาไวอากร้า (Viagra) ล่วงหน้าเพียง 30 นาทีเท่านั้น

ก่อนที่คุณผู้ชายทั้งหลายที่กำลังติดสินใจในการซื้อ “ไวอากร้า (Viagra)” ควรอ่านก่อนกิน! วันนี้แกรนด์คอนด้อมจะขนข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับไวอากร้า ตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐาน วิธีการกินผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ไปจนถึงวิธีสังเกตไวอากร้าของแท้ เพื่อให้ท่านชายได้ใช้งาน “ไวอากร้า” ได้อย่างมีประสิทธิภาพกันค่ะ

ความหมายของไวอากร้า (Viagra)

ยาไวอากร้า (Viagra) คือยาที่ช่วยรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction : ED) โดยปกติแล้วเมื่ออารมณ์ของท่านชายถูกกระตุ้น นกเขา หรืออาวุธหลักของท่านชายจะอาศัยสารไนตริกออกไซด์ (Nitric oxide) สูบฉีดขยายเส้นเลือดไปหล่อเลี้ยงบริเวณองคชาติ และเกิดความแข็งด้วยสาร ไซคลิกกัวโนซีนโมโนฟอสเฟต (Cyclic Guanosine Monophosphate : cGMP)  และพร้อมที่จะถูกใช้งานตามธรรมชาติของร่างกาย แต่ในท่านชายที่ถูกกระตุ้นอารมณ์ แล้วอวัยวะเพศไม่เกิดการแข็งตัว หรือที่เรียกกันว่า “นกเขาไม่ขัน” แสดงออกถึงอาการผิดปกติทางเพศ หรือมีอาการ หย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction : ED) นั่นเอง จากข้อมูลพบว่า สภาวะการไม่แข็งตัวของท่านชาย มักพบในเพศชายอายุต่ำกว่า 30 ปี และช่วง 50-59 ปี เฉลี่ย 16% โดยพบมากที่สุดในช่วงอายุ 70-75 ปี สูงถึง 37% นอกเหนือจากสภาวะนกเขาไม่ขันแล้ว ยังมีสภาวะที่ความต้องการทางเพศลดลง (Decreased Libido) โดยอาการที่เกิดขึ้นมีการหลั่งที่ผิดปกติไปจากเดิม เช่น หลั่งเร็ว หรือหลั่งช้า บางรายพบว่ามีอาการนกเขาไม่ขันร่วมด้วย ยาไวอากร้า (Viagra) จึงเป็นยายอดนิยมที่ถูกใช้ในการรักษาอาการเหล่านี้นั่นเอง

ไวอากร้า (Viagra) มีกี่ประเภท

“ไวอากร้า เลวิตร้า เซียลิส สเตนดร้า” หลากหลายแบรนด์เหล่านี้ ทุกแบรนด์ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติในการช่วยในเรื่องการรักษาหย่อนสมรรถภาพทางเพศเหมือนกัน โดยใช้ชื่อทางการค้าที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งยาไวอากร้า (Viagra) แต่ละตัวจะมีตัวยาหลักๆ ต่างกัน 4 ชนิด ดังนี้

1. ซิลเดนาฟิล (Sildenafil) หรือชื่อทางการค้า “ไวอากร้า (Viagra)”

2. วาร์เดนาฟิล (Vardenafil) หรือชื่อทางการค้า “เลวิตร้า (Levitra)” 

3. เทดาลาฟิล (Tadalafil) หรือชื่อการค้าคือ “เซียลิส (Cialis)”

4. อวานาฟิล (Avanafil) หรือชื่อการค้าคือ “สเตนดร้า (Stendra)”

ตัวยาทั้ง 4 ชนิดมีความใกล้เคียงกันในเรื่องของการรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction : ED) โดยมีข้อดีข้อเสียต่างกันไปในแต่ละชนิด เช่นระยะเวลาในการออกฤทธิ์ หรือผลข้างเคียงจากการใช้ตัวยา เป็นต้น สำหรับตัวยา ไวอากร้า (Viagra) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จะเป็น "ไฟเซอร์ไวอากร้า" (Viagra Pfizer) ของบริษัทยาชื่อดังยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาอย่าง Pfizer ซึ่งเป็นไวอากร้าของแท้ แบรนด์แรกของโลก  โดยไฟเซอร์ไวอากร้า (Viagra Pfizer) ได้เลือกตัวยาอย่าง ซิลเดนาฟิล (Sildenafil) ที่ช่วยรักษา อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction : ED) ด้วยการยับยั้งฮอร์โมนฟอสโฟไดเอสเทอเรส 5 ที่ทำให้อวัยวะเพศอ่อนตัวลง นอกจากนี้ ซิลเดนาฟิล (Sildenafil) ยังช่วยขยายโพรงของอวัยวะเพศชาย เพื่อกระตุ้นการแข็งตัว และตอบสนองต่อสภาวะอารมณ์ที่ถูกกระตุ้นได้รวดเร็วกว่าปกติอีกด้วย

ทำไมต้องกิน ไวอากร้า (Viagra)

การมีเพศสัมพันธ์ เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์อย่างนึงของคู่รัก เป็นกิจกรรมที่ตอบสนองความพึงพอใจทางด้านเพศ นอกเหนือจากนี้ในทางวิทยาศาสตร์ยังพบว่า การมีเพศสัมพันธ์ยังสามารถช่วยลดความเครียด รวมไปถึงลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ อีกด้วย เรียกได้ว่าการมีเพศสัมพันธ์นั้นเป้นสั่งสำคัญอย่างมากในการใช้ชีวิตของมนุษย์ก็ว่าได้ แต่การที่ร่างกายที่เกิดปัญหาไม่สามารถตอบสนองต่ออารมณ์ทางเพศได้ ด้วยสาเหตุจากหลากหลายปัจจัยในโลกยุคปัจจุบัน จึงทำให้ยาไวอากร้า ถูกคิดค้น และวิจัยมาเพื่อรักษาอาการดังกล่าว เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะกิจในการตอบสนองเพศท่านชายได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหา ไม่แข็งตัว แข็งตัวไม่เต็มที่ ล่มปากอ่าว หลั่งไว ไม่มีน้ำเชื้อ น้ำเชื้อไม่แข็งแรง ปัญหาเหล่านี้สามารถได้รับการแก้ได้ในทันทีจากการใช้ยาไวอากร้า (Viagra) ล่วงหน้าเพียง 30 นาทีเท่านั้น

คุณสมบัติของไวอากร้า (Viagra)

• ไวอากร้า (Viagra) ช่วยรักษา และบรรเทาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction : ED) 
• ไวอากร้า (Viagra) ช่วยกระตุ้นให้อวัยวะเพศของท่านชายตอบสนองต่อการโดนกระตุ้นอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว
• ไวอากร้า (Viagra) ช่วยกระตุ้นการแข็งตัวให้อวัยวะเพศ เพื่อให้สามารถทำกิจกรรมทางเพศได้อย่างเต็มที่
• ไวอากร้า (Viagra) ช่วยกระตุ้นการสูบฉีดของเลือดภายในร่างกายเพื่อให้ขนาดองคชาติ ขยายตัวได้ใหญ่เต็มที่
• ไวอากร้า (Viagra) ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ให้คงสภาพพร้อมดำเนินกิจกรรมตลอดรอดฝั่ง ไม่อ่อนแรงกลางทางก่อนการเสร็จสิ้นภารกิจ 
• ไวอากร้า (Viagra) ช่วยชะลออาการ “หลั่งเร็ว” หรือ Premature Ejaculation (PE) ให้สามารถดำเนินกิจกรรมได้ยาวนานยิ่งขึ้น 
• ไวอากร้า (Viagra) ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวหลังถึงจุดสุดยอดได้เป็นอย่างดี สามารถดำเนินกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่อง

**ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ที่ปัญหาและสมรรถภาพทางร่างกายแตกต่างกันออกไป**

ไวอากร้า (Viagra) ทำงานอย่างไร

หลักการทำงานของ Viagra(ไวอากร้า) ผ่านตัวยา ซิลเดนาฟิล (Sildenafil Citrate) คือ ยาในกลุ่มขยายหลอดเลือด เป็นสารยับยั้ง Phosphodiesterase type 5 inhibitor (PDE5 inhibitor) เป็นยาขยายหลอดเลือดซึ่งทำงานโดยการสกัดกั้นการย่อยสลายของ Phosphodiesterase type 5 (PDE5) แบบ cGMP บนไซคลิก Guanosine monophosphate ในเซลล์กล้ามเนื้อเรียบที่เยื่อบุหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงเนื้อเยื่อต่าง ๆ ยาเหล่านี้จะขยายโพรงคอร์โปราของอวัยวะเพศชายช่วยกระตุ้นการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ช่วยให้อวัยวะเพศชายตอบสนองต่อการโดนกระตุ้นอารมณ์อย่างรวดเร็วกว่าปกติ ช่วยในเรื่องของการแข็งตัวรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ : Erectile dysfunction (ED) ขยายผนังเซลล์ของอวัยวะเพศชายทำให้มีพื้นที่มากขึ้นสามารถเก็บกักเลือดได้มากขึ้น  ขนาดของอวัยวะเพศชายจึงสามารถขยายตัวได้ใหญ่ขึ้นเต็มที่  กลไกทางสรีรวิทยาของการแข็งตัวของอวัยวะเพศ เกี่ยวข้องกับการปลดปล่อยไนตริกออกไซด์ (NO) ในโพรงคอร์ปัส (ส่วนหัวและลำตัวขององคชาต) เมื่อได้รับการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ ส่งผลต่อระดับเอนไซม์ของกล้ามเนื้อคลายตัวสามารถเก็บกักโลหิตทำให้อวัยวะแข็งตัวได้ กลไกการออกฤทธิ์ของยานี้จึงเกี่ยวข้องโดยตรงกับการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ โดยไวอากร้านั้นไม่มีผลต่อการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศแต่อย่างใด เป็นเพียงตัวช่วยในการช่วยเหลือสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่างกายที่ไม่สามารถ หรือมีความผิดปกติในการตอบสนองอารมณ์ทางเพศเท่านั้น

ไวอากร้า (Viagra) กินอย่างไร

สำหรับ ยาไฟเซอร์ไวอากร้า (Viagra Pfizer) หรือไวอากร้ายี่ห้ออื่นๆ จะเป็นตัวยาใช้รับประทานแบบ Single Dose ทานครั้งเดียวเฉพาะกิจเหมือนกันหมด โดยมีวิธีการกินและการทำงานของยาดังนี้

1. ก่อนมีเพศสัมพันธ์ 30-60 นาที สามารถทานยา ไวอากร้า (Viagra) 1 เม็ด หรือ 100 มก. แล้วดื่มน้ำเปล่าตาม ในขณะที่ท้องว่าง
2. ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์หลังจากรับประทานยาไปแล้ว 30-60 นาที โดยระยะเวลาที่จะออกฤทธิ์ ช้า-เร็ว ขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อตัวยาของแต่ละบุคคลด้วย
3. ตัวยาออกฤทธิ์ยาวนาน 2-3 ชั่วโมงเต็ม และยังให้ผลต่อเนื่องถึง 6-12 ชั่วโมง โดยประสิทธิภาพจะลดลงเรื่อยๆตามระยะเวลาที่ผ่านไป

สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยรับประทานไวอากร้ามาก่อน แนะนำให้รับประทานยาเพียงครึ่งเม็ด (50 มก.) เพื่อลดความรุนแรง หรือลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงจากการทานไวอากร้า หากรับประทานยาครึ่งเม็ดเรียบร้อยแล้วเป็นระยะเวลา 60 นาที แล้วไม่เห็นผลลัพธ์ หรือยังไม่เกิดอาการใดๆ สามารถทานอีกครึ่งเม็ดที่เหลือเพิ่มได้

ไวอากร้า (Viagra) มีผลข้างเคียงหรือไม่?

เนื่องจากยาไวอากร้า เป็นตัวยาที่ใช้รักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction : ED) ที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งฮอร์โมนฟอสโฟไดเอสเทอเรส 5 ที่ทำให้อวัยวะเพศอ่อนตัวลง ทำให้ตัวยาทุกยี่ห้อมีโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงได้ ยาที่มีส่วนผสมของยาซิลเดนาฟิล (Sildenafil) มีโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาตามปกติได้ดังนี้

• ใจเต้นแรง หน้าแดง
• ตัวร้อน ปวดศีรษะ เวียนหัว
• ตาไวต่อแสง
• นอนไม่หลับ
• อาหารไม่ย่อย
• ท้องเสีย
• ผดผื่นคัน

ซึ่งเป็นผลจากการขยายเส้นเลือด ทำให้เลือดไหวเวียนไปส่วนต่างๆ มากขึ้น โดยอาการลักษณะดังกล่าวจะไม่รุนแรงจนเป็นอันตรายต่อชีวิต เป็นเพียงผลข้างเคียงจากตัวยาที่สามารถหายสนิทได้เองตามธรรมชาติภายใน 4-12 ชั่วโมง สำหรับผลข้างเคียงต่างๆ จะไม่เหมือนกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย และการตอบสนองต่อฤทธิ์ยาของแต่ละบุคคล โดยมีโอกาสที่จะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เลยเช่นเดียวกัน ดังนั้นเมื่อรับประทานไวอากร้า ควรดื่มน้ำเปล่าตามมากๆ เพื่อบรรเทาและลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงได้ค่ะ

ข้อควรระวังในการกินไวอากร้า (Viagra)

ไวอากร้า (Viagra) เป็นยาที่มีคุณสมบัติในเรื่องสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งเป็นการกระตุ้นสภาวะที่ซับซ้อนในเพศชาย จึงมีข้อควรระวังต่างๆ ดังต่อไปนี้

1. เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ควรใช้ไวอากร้า
2. ห้ามใช้ยาที่หมดอายุแล้ว
3. ในการใช้ยาไวอากร้า ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมใดๆ ที่ต้องใช้ความตื่นตัว และสมาธิ เช่น การขับรถ
4. ตัวยาไวอากร้า ไม่ได้มีฤทธิ์ในการกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศ แต่เป็นการกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และไม่มีผลต่อผู้ใช้งานเพศหญิง
5. ไม่ควรใช้เกิน 1 เม็ด ต่อ วัน (ภายใน 24 ชั่วโมง)
6. สำหรับการทานครั้งแรก ให้ทดลองใช้เพียงครึ่งเม็ด หากไม่เห็นผลสามารถทานอีกครึ่งเม็ดที่เหลือได้
7. ตัวยาที่แบ่งครึ่งแล้วควรทิ้งทันที ห้ามเก็บไว้ใช้ในครั้งถัดไป เนื่องจากตัวยาอาจเสื่อมสภาพ หรือมีการปนเปื้อนจากสภาวะแวดล้อม
8. ควรทานไวอากร้าตอนท้องว่าง เพราะอาหารในกระเพาะ ทำให้ตัวยาถูกดูดซึมได้ช้าลง และลดประสิทธิภาพลง
9. หลีกเลี่ยงการทานอาหารประเภทไขมันสูง รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอลต่างๆ ก่อนการใช้ไวอากร้า
10. การดื่มน้ำเปล่าที่มากพอช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงต่างๆ ดังนั้นไม่ควรดื่มน้ำผลไม้ ชา กาแฟ โซดา และอื่นๆ แทนการดื่มน้ำเปล่า เมื่อต้องการใช้ไวอากร้า
11. ไม่ควรรับประทานไวอากร้าร่วมกับยาที่ช่วยเรื่องสมรรถภาพทางเพศอื่นๆ
12. ห้ามใช้ยาไวอากร้าร่วมกับยาอื่นที่มีส่วนประกอบของ Nitrate หรือ ยาที่มีคุณสมบัติขยายหลอดเลือด รวมไปถึงยารักษาโรคความดันโลหิตสูง (Alpha-blockers)
13. ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคตับ โรคไต ความดันโลหิตสูง รวมไปถึงผู้ป่วยที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับหลอดเลือด ไปจนถึงผู้ป่วยที่มีสภาวะต่อมลูกหมากอักเสบ ห้ามใช้ยาไวอากร้า โดยเด็ดขาด
14. ยาไวอากร้าเป็นยาที่ช่วยกระตุ้นสภาวะในร่างกายให้พร้อมต่อการทำกิจกรรมทางเพศ ไม่มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ
15. เพื่อความปลอดภัย และป้องกันการเกิดผลข้างเคียงทางด้านสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้ยา

วิธีสังเกตไวอากร้าแท้ VS ปลอม

ปัจจุบันมีร้านค้าออนไลน์จำนวนมาก จำหน่ายไวอากร้าให้ผู้บริโภคในราคาถูก และบางท่านอาจซื้อมารับประทานโดยที่ไม่ทราบว่ายานั้นคือของปลอม ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลเสียและอันตรายต่อร่างกายได้ วันนี้แกรนด์คอนด้อมจะมาแนะนำวิธีสังเกตไวอากร้าของแท้เบื้อต้นด้วยตนเองให้ทราบกันค่ะ

1. สีกล่องยา

ไวอากร้าแท้: รุ่น 100 mg. เป็นกล่องสีขาว มีแถบด้านซ้ายสีน้ำเงินอมม่วง และตัวหนังสือ 100 mg กับแถบสี่เหลี่ยมขวามือเป็นสีม่วงบานเย็น
ไวอากร้าปลอม: รุ่น 100 mg. เป็นกล่องสีขาว มีแถบด้านซ้ายสีน้ำเงิน และตัวหนังสือ 100 mg กับแถบสี่เหลี่ยมขวามือเป็นสีม่วงเข้ม

2. หมึกพิมพ์

ไวอากร้าแท้: มีความชัดเจน สีไม่ซีดจาง มีตรายี่ห้อ Pfizer มุมซ้ายมือบนทั้ง 2 ด้าน
ไวอากร้าปลอม: ตัวหนังสือไม่ชัด สีซีดจาง มีตรายี่ห้อ Pfizer แค่ด้านเดียว

3. โฮโลแกรมลายน้ำ

ไวอากร้าแท้: มีโฮโลแกรมด้านหน้ากล่องรูปสี่เหลี่ยมขอบมน มุมขวาล่าง สติ๊กเกอร์เป็นเนื้อเดียวกับกล่องไม่สามารถลอกออกได้ มีโลโก้ Pfizer ทันซ้อนคำว่า VIAGRA พิมพ์ใหญ่อยู่ในวงกลมทรงลักบี้ พื้นหลังทีคำว่า PFIZER VIAGRA เต็มพื้นที่
ไวอากร้าปลอม: มีโฮโลแกรมด้านหน้ากล่อง แต่เป็นสติ๊กเกอร์ถูกแปะทับภายหลัง

4. การปั๊มล็อต

ไวอากร้าแท้: มีการปั๊ม ล็อตผลิต วันที่ผลิต วันหมดอายุ ที่ฝาเปิดด้านขวาของกล่องแบบปั๊มร่องด้วยความร้อนสีเดียวกับกล่อง
ไวอากร้าปลอม: มีการปั๊ม ล็อตผลิต วันที่ผลิต วันหมดอายุ ที่ฝาเปิดด้านขวาของกล่องแบบพิมพ์ด้วยหมึกสีดำ

5. แผงฟอล์ย

ไวอากร้าแท้: ด้านหน้ามีโลโก้ 1 จุด ด้านหลัง พิมพ์โลโก้ Pfizer VIAGRA 100 mg SILDENAFILTABLETS เต็มแผ่น
ไวอากร้าปลอม: ด้านหน้าไม่มีมีโลโก้ที่แผ่นฟอล์ย 

6. เม็ดยา

ไวอากร้าแท้: รูปทรงเฉพาะสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดมุมมน สีฟ้าสด เซาะร่อยชื่อแบรนด์ Pfizer 2 เม็ด และ VGR100 2 เม็ด อย่างชัดเจน
ไวอากร้าปลอม: เม็ดออกทรงวงรี สีฟ้าซีด เซาะร่อยชื่อแบรนด์ Pfizer ทั้ง 4 เม็ด

ข้อเสียของการกินยาไวอากร้า (Viagra) ปลอม

ไวอากร้า (Viagra) เป็นยาที่ท่านชายหลายคนใช้โดยที่ขาดความรอบคอบและระมัดระวังในการใช้ยา บ้างใช้ตามคำแนะนำจากเพื่อน หรือรีวิวทางอินเตอร์เน็ต โดยชะล่าใจขาดการตรวจสอบว่ายาที่ใช้นั้นเป็นของแท้หรือไม่ ซึ่งยาไวอากร้าปลอมนั้น เป็นยาที่ไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา ของประทเศผู้ผลิต จึงไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่ายานั้นอาจมีการปนเปื้อน มีสิ่งเจือปน หรือมีสารที่เป็รอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ หรือเป็นยาที่ไม่มีผู้รับรองความปลอดภัยการใช้งานให้นั่นเอง ทำให้การใช้ยาอาจจะไม่ได้รักษาอาการตามที่คุณคาดหวัง และอาจเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยา และรุ่นแรงอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้น จึงควรสั่งซื้อไวอากร้าของแท้ นำเข้าจากสหรัฐอเมริกากับตัวแทนจำหน่ายที่ไว้ใจได้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของตัวท่านเองจากการใช้ยาไวอากร้า