ใส่ถุงยางแล้วท้องได้ไหม?
ตอนนี้คุณกำลังมีความกังวลใจอยู่รึเปล่าคะ? ถ้าใช่มาลองอ่านบทความนี้คลายความกังวลดูค่ะ
เรื่องกังวลที่มักจะตามมาจากการมีเพศสัมพันธ์ อาจเกิดขึ้นได้กับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ปัญหานี้จะเกิดขึ้นกับผู้หญิงมากกว่า สิ่งที่ผู้หญิง |
เป็นที่รู้กันดีว่า อุปกรณ์คุมกำเนิดส่วนใหญ่นั้น ผลิตขึ้นโดยมุ่งไปที่ผู้หญิงเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ยาคุมกำเนิดแบบเม็ด ยาฉีดคุมกำเนิด |
ถึงเวลานี้แล้ว โลกหมุนเปลี่ยนพัฒนาไปไวมาก อยากให้คนรุ่นใหม่ได้หันกลับมาคิดใหม่ว่า "ถุงยางอนามัย" เป็นเรื่องของคนสองคนที่ต้องพูดคุย |
ส่วนหลายๆคนที่กำลังวลว่า ใช้ถุงยางอนามัยไปแล้วจะมีสิทธิ์ท้องได้ไหม เรามีคำตอบให้ดังนี้ค่ะ
สาเหตุของการตั้งครรภ์อันเนื่องมาจากการใช้ถุงยางอนามัย สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะสาเหตุดังต่อไปนี้
1. การใช้ถุงยางอนามัยไม่สม่ำเสมอ
นับเป็นสาเหตุสําคัญในการคุมกําเนิด ซึ่งอาจมาจากความไม่ร่วมมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หรือใช้ถุงยางอนามัยสลับกับการนับวัน หรือหลั่งภายนอก
รวมไปถึงการสอดใส่ก่อนในช่วงแรก แล้วค่อยใส่ถุงยางในช่วงหลังด้วยก็ตาม
2. การใช้ถุงยางอนามัยไม่ถูกวิธี
เช่น คลี่ออกทั้งหมดก่อนสวมใส่ การใส่ผิดด้าน การใส่ที่ไม่เว้นส่วนติ่งไว้ ไม่ไล่อากาศออกจากติ่งกระเปาะ หรือถูกเล็บขีดข่วน หรือโดนของมีคม
ทำให้ฉีกขาด ห้ามใช้ปากกัดซอง หรือให้กรรไกรโดยเด็ดขาด ควรใช้มือฉีกมุมซองด้วยความระมัดระวังเท่านั้น
3. การนํากลับมาใช้ใหม่หลังจากที่ใช้ไปพักหนึ่งแล้วถอดออก
ซึ่งอาจทำให้มีอสุจิปนเปื้อนได้ รวมถึงการหลั่งแล้วแช่ค้างไว้นานจนอวัยวะเพศอ่อนตัวอีกครั้ง การไม่จับขอบถุงตอนถอนอวัยวะเพศออก
การใช้ไม่ถูกวิธีเหล่านี้นํามาซึ่ง การแตก รั่ว เลื่อนหลุดของถุงยางอนามัย หรือการการปนเปื้อนของน้ำอสุจิบริเวณช่องคลอดได้
4. การเลื่อนหลุดของถุงยางอนามัย
แม้ได้ระมัดระวังอย่างดีแล้วขณะปฏิบัติกิจ ซึ่งอาจมาจากการเลือกขนาดถุงยางที่ไม่เหมาะสม
ถ้าคุณกำลังมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายจากที่เล่ามาข้างต้นนี้ แอดมินบอกได้เลยค่ะว่า คุณมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ แนะนำให้ลองปรึกษาเภสัชกร
หรือซื้อที่ตรวจคันมาเช็คเพื่อความแน่ใจค่ะ
ดังนั้น หากไม่อยากกังวลใจแบบนี้อีกในคราวต่อๆไป ก็ควรป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ไม่ให้เกิดขึ้น โดยเริ่มจากจากการเลือกถุงยางอนามัย
ที่เหมาะสมกับตัวเองก่อนค่ะ
หลักการการใช้งานถุงยางอนามัยให้ไม่ต้องกังวลว่าจะท้องหรือไม่ นพ.ยุทธสิทธิ์ ธนพงศ์พิพัฒน์ ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า "การเลือกถุงยางให้สังเกตดู
ที่กล่องว่ามีเครื่องหมายรับรองคุณภาพไหมทุกครั้ง ส่วนขนาของถุงยางอนามัยจะมีหลายขนาด ไม่ใช่ Free Size แบบที่หลายๆคนเข้าใจ
ไซส์สำหรับคนไทยส่วนใหญ่จะมีขนาด 49 มม. 52 มม. และ 56 มม. ซึ่งก็ควรเลือกให้พอดีกับไซส์ตัวเอง ถือเป็นเรื่องสำคัญมากอีกเรื่องหนึ่ง
สำหรับคนที่มีความกังวลเรื่องการตั้งครรภ์มากๆก็ลองดูถุงยางชนิดที่มีสารฆ่าเชื้ออสุจิด้วยก็ได้ จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการคุมกำเนิดได้ดีขึ้น
การใช้งาน
การใส่ถุงยางนั้น ต้องใส่ตอนที่อวัยวะเพศแข็งตัวเท่านั้น และสวมโดยการครอบถุงยางไว้กับปลายอวัยวะเพศ บีบปลายถุงยางที่เป็นกระเปาะเพื่อไล่
ไม่ให้มีอากาศเข้าไปค้างไว้ จากนั้นก็ค่อยๆรูดถุงยางเข้ามาตัวจนสุด ซึ่งข้อมูลตรงนี้จะมีบอกในกล่องถุงยางอยู่แล้ว
หลังการใช้
จะต้องถอดถุงยางออกทันที โดยต้องระวังไม่ให้น้ำอสุจิกระเด็น หรือเลอะช่องคลอดโดยเด็ดขาด และต้องเอาออกขณะที่อวัยวะเพศยังแข็งตัว
ไม่ควรทิ้งไว้ในช่องคลอดจนอ่อนตัวเพราะ อาจทำให้น้ำอสุจิรั่วออกมาได้"
รู้แบบนี้แล้วใครที่มีความกังวลใจอยู่จะได้ชัดเจนนะคะ ถ้ามีพฤติกรรมที่เข้าข่ายเสี่ยงแล้วล่ะก็ ควรหาแนวทางแก้ไขต่อไป แต่ถ้าไม่ไม่พฤติกรรมเสี่ยง
เหล่านี้ก็สบายใจได้ค่ะ และอย่าลืมศึกษาวิธีใช้ถุงยางอนามัยให้รอบคอบก่อน และไม่ประมาททุกครั้งนะคะ ครั้งๆต่อๆไปจะไม่มีความกังวลอีกแน่นอนค่ะ
ขอบคุณเนื้อหาจาก: teenpath.net, women.mthai.com
ขอบคุณภาพจาก: pannfitleadyx.blogspot.com